บริษัทประกาศกำไรสุทธิ 2Q52 ที่ 1,103ล้านบาทเพิ่มขึ้น 71%QoQ แต่ลดลง1.1%YoYเติบโตจากการรับรู้รายได้คอนโดมีเนียมและแนวราบ พร้อมทั้งกำไรจากเงินลงทุน ที่เพิ่มขึ้น
รายได้จากการขายและบริหาร 4,868 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60%QoQ แต่ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมีเนียม The Room รัชดา-ลาดพร้าว 968 ล้านบาทหรือคิดเป็นสัดส่วน ประมาณ 32% ของมูลค่าโครงการรวมที่ 2,995 ล้านบาท จากยอดขายที่ปรับดีขึ้นตามความมั่นใจของผู้บริโภคที่กลับมาทำให้มียอดขายแนวราบ 3,663ล้านบาทเพิ่มขึ้น 36%QoQโดยรับรู้รายได้มาจากโครงการเก่า 75% และมาจากโครงการใหม่ 35%
อัตรากำไรขั้นต้น 31.50% ปรับดีขึ้น เมื่อเทียบกับ 1Q52 ที่ 29.8%หลังมีการรับรู้รายได้ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากโครงการคอนโดมีเนียมที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่มากกว่า 30%และอัตรากำไรขั้นต้นของทาวน์เฮาส์ที่ปรับเพิ่ม
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 407ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%QoQ และเพิ่มขึ้น 10%YoYมาจากการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้น และขณะเดียวกัน 2Q52 เปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ ซึ่งเมื่อเทียบกับยอดขาย มี SG&A/Sale 8% ลดลงเมื่อเทียบกับรายไตรมาสแต่ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
กำไรจากเงินลงทุน 300ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33%QoQ และ 29%YoY มาจากผลประกอบการที่ปรับดีขึ้นจาก LH Bank และ Polar Property รวมถึง KH HMPRO และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง QH
ที่มา:บล.เกียรตินาคิน
0 comments:
Post a Comment